โรตี !!: ดาวน์โหลด

บทนำ

1. หลักการและเหตุผล

โดยทั่วไป คำว่า โรตี หมายถึง ขนมปัง หรือผลิตภัณฑ์จากแป้งหลากหลายชนิด เช่น จาปาตี และ ผุลกา ผลิตภัณฑ์แป้งหรือขนมปังแต่ละอย่างต่างมีชื่อเฉพาะแตกต่างกัน สำหรับในภาษามราฐี จะเรียก โรตี ว่า จาปาตี หรือ โปลี ในคุชรตี เรียกว่า โรตลี ในภาษาปัญจาบี โรตีชนิดที่รับประทานอย่างง่าย จะเรียกว่า ผุลกา (Phulka) และจะใช้เรียกขนมปัง โดยมากจะใช้คำนี้หมายถึงแป้งแบนกลมๆ ไม่ขึ้นฟู อย่างที่รับประทานกันทั่วไปในอินเดีย และปากีสถาน ส่วนแป้งแบบใส่ยีสต์ให้ขึ้นฟูนั้น จะเรียกว่า นาอัน (naan) เดิมมีกำหนดจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของเอเชียใต้ และเอเชียกลาง ชาวตะวันตกจะเรียกโรตีแบบนี้ว่า balloon bread หรือ ขนมปังพอง

ในประเทศไทย คำว่า โรตี หมายถึง แป้งชนิดที่เรียกว่า ไมดา ปะระถา ซึ่งในภาษามลายู เรียกว่า โรตี จะไน และในสิงคโปร์ เรียกว่า โรตีประตา จะโรยหน้าด้วยนมข้นหวาน น้ำตาลทราย ใส่ไข่ไก่ ลงไปขณะกำลังทอดแป้งบนกระทะ รับประทานขณะร้อนหรืออุ่น

คณะผู้จัดทำ ได้นำเสนองานในรูปแบบบล็อกเพื่อดึงดูดความน่าสนใจ เว็บบล็อกเป็นสิ่งที่ทันสมัย สามารถเข้ามาดูและค้นหาข้อมูล ความเป็นมาของโรตี สูตรขนมโรตีที่มีรสชาติอร่อยไปจากเดิม ประเภทของโรตี และวิธีการทำโรตี ได้ง่าย สะดวก และทันใจ

จากข้อมูลข้างต้นผู้รายงานมีความคิดเห็นว่าโรตีในปัจจุบันนี้มีหลายชนิดมิได้มีเพียงโรตีกรอบหรือโรตีมะตะบะ แต่ยังมีโรตีชนิดต่างๆอีกมากมายที่ผู้ขายได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจโรตีสูตรใหม่ให้มากขึ้น

2. วัตถุประสงค์

2.1 เพื่อค้นคว้าความเป็นมาของโรตี

2.2 เพื่อศึกษาสูตรและวิธีการทำ

2.3 เพื่อคิดค้นสูตรใหม่ทันสมัยและถูกใจลูกค้า

2.4 เพื่อนำเสนองานรูปแบบบล็อก

2.5 เพื่อให้ง่ายในการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

2.6 จัดทำบล็อกให้เป็นที่น่าสนใจแก่ผู้เข้ามาชม

3. สมมุติฐาน

3.1 สูตรขนมโรตีและเทคนิในการทำงานจะสามารถนำไปใช้ได้ดีกว่าเดิมหรือไม่

4. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

4.1 จะได้สูตรโรตีที่ดีกว่าเดิม

4.2 จะได้รสชาติอร่อยถูกใจลูกค้า

4.3 จะได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

5. ขอบเขตของการดำเนินงาน

5.1 รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทำโรตี

5.2 เวลาของการดำเนินการ คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556

5.3 แหล่งค้นคว้าข้อมูล คือ อินเทอร์เน็ตและแผ่นผับ ลงพื้นที่ร้าน

6. นิยามคำศัพท์เฉพาะ

6.1 จะปาตี เป็นขนมปังแผ่นแบนแบบอินเดีย ทำจากแป้งสาลี มีถิ่นกำเนิดจาก เอเชียใต้ปัจจุบันนอกจากในเอเชียใต้ ยังมีบริโภคในประเทศเติร์กเมนิสถาน ประเทศแถบแอฟริกาตะวันออก เช่น อูกันดา เคนยา แทนซาเนีย และแถบแอฟริกาตะวันตก เช่น กานา

6.2 ภาษามราฐี เป็นภาษาหนึ่งในตระกูลอินเดีย-ยุโรป หรืออินโด-ยูโรเปียน (Indo-European) ที่พูดกันในประเทศอินเดีย และใช้เป็นประจำรัฐอย่างเป็นทางการของรัฐมหาราษฏระและรัฐใกล้เคียง โดยใช้อักษรที่เรียกว่า อักษรเทวนาครี

นอกจากนี้ภาษามราฐียังเป็นหนึ่งใน 18 ภาษาประจำชาติอย่างเป็นทางการของอินเดีย โดยมีผู้ใช้เกือบร้อยล้านคน เฉพาะในรัฐมหาราษฏระ มีผู้ใช้ภาษามราฐีราว 90 ล้านคน ทั้งยังนับเป็นภาษาหนึ่งที่มีประวัติยาวนาน จารึกภาษามราฐีที่เก่าที่สุด พบครั้งแรกในรัฐกรณาฏกะ เป็นจารึก ของอินเดีย สันนิษฐานจารึกไว้เมื่อประมาณ 1,300 ปีที่แล้ว

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ความเป็นมาของโรตี

โดยทั่วไปแล้ว คำว่า โรตี นั้น อาจหมายถึง ขนมปัง หรือผลิตภัณฑ์จากแป้งหลากหลายชนิด เช่น จาปาตี และ ผุลกา ซึ่งผลิตภัณฑ์แป้งหรือขนมปังแต่ละอย่างต่างก็มีชื่อเฉพาะแตกต่างกันไป สำหรับในภาษามราฐี มักจะเรียก โรตี ว่า จาปาตี หรือ โปลี ส่วนในคุชรตี เรียกว่า โรตลี ในภาษาปัญจาบีนั้น โรตีชนิดที่รับประทานอย่างง่ายๆ จะเรียกว่า ผุลกา (Phulka) และมักจะใช้เรียกขนมปัง โดยมากจะใช้คำนี้หมายถึงแป้งแบนกลมๆ ไม่ขึ้นฟู อย่างที่รับประทานกันทั่วไปในอินเดีย และปากีสถาน ส่วนแป้งแบบใส่ยีสต์ให้ขึ้นฟูนั้น จะเรียกว่า นาอัน (naan) ซึ่งเดิมมีกำหนดจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของเอเชียใต้ และเอเชียกลาง บางครั้งชาวตะวันตกจะเรียกโรตีแบบนี้ว่า balloon bread หรือ ขนมปังพอง นั่นเอง

ในประเทศไทยนั้น คำว่า โรตี หมายถึง แป้งชนิดที่เรียกว่า ไมดา ปะระถา ซึ่งในภาษามลายู เรียกว่า โรตี จะไน และในสิงคโปร์ เรียกว่า โรตีประตา ปกติจะโรยหน้าด้วยนมข้นหวาน น้ำตาลทราย บางครั้งก็ใส่ไข่ไก่ลงไปขณะกำลังทอดแป้งบนกระทะ รับประทานขณะร้อนหรืออุ่น

ปัจจุบันมีการทำโรตีหลายรสชาติ ที่นิยมกันมากได้แก่การใส่กล้วยหอม (ครึ่งผลหรือหนึ่งผล) โดยนำมาสับเป็นแว่นเล็กๆ แล้วโรยไปบนแป้งโรตีขณะทอดร้อนๆ นอกจากนี้ยังมีโรตีราดแยมผลไม้ ใส่เครื่องปรุงรสอื่นๆ เช่น ช็อกโกแลต กาแฟ และยังมีโรตีพิซซ่า ซึ่ง เป็นการผสมผสานรสชาติตะวันออกและตะวันตกไว้ด้วยกันอีกด้วย

โรตีในประเทศไทย มีทั้งในร้านอาหาร และขายตามรถเข็น ผู้ขายจะทอดโรตีตามคำสั่งลูกค้า เมื่อปรุงเสร็จ จะพับและม้วนเป็นท่อนยาว ห่อด้วยกระดาษ หากเป็นโรตีที่มีใส้ ก็จะมีการหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆพอดีคำ บรรจุด้วยกล่องโฟม ราดนมข้นและน้ำตาลทราย ปัจจุบันพบว่าผู้ขายจำนวนไม่น้อยเป็นชาวเอเชียใต้ ได้แก่ ชาวปากีสถาน อินเดีย หรือบังคลาเทศ

ราคาโรตีแต่ละร้านจะแตกต่างกันออกไป เริ่มจาก ธรรมดา ปัจจุบัน พ.ศ.2554 ประมาณ10 บาทขึ้นไป จนกระทั่งแบบมีใส้ราคาถึง 40 บาท

2.1 ความเป็นมาของบล็อก

บล็อก blog เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บบล็อก ( weblog ) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียนจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุดบล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอใน หลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือบล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูลสามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นผู้เขียนทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบรับกลับโดยทันที คำว่า บล็อก ยังใช้เป็นคำกริยาได้หมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า บล็อกเกอร์ บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อกโดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร

2.2 HTML หมายถึง

HTML เป็นคำย่อจากคำขึ้นต้นของ Hypertext Markup Language) เป็นภาษามาร์กอัปหลักในปัจจุบันที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจ หรือข้อมูลอื่นที่เรียกดูผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งตัวโค้ดจะแสดงโครงสร้างของข้อมูล ในการแสดง หัวข้อ ลิงก์ ย่อหน้า รายการ รวมถึงการสร้างแบบฟอร์ม เชื่อมโยงภาพหรือวิดีโอด้วย โครงสร้างของโค้ดเอชทีเอ็มแอลจะอยู่ในลักษณะภายในวงเล็บสามเหลี่ยม

เอชทีเอ็มแอลเริ่มพัฒนาโดย ทิม เบอร์เนอรส์ ลี (Tim Berners Lee) สำหรับภาษา SGML ในปัจจุบัน HTML เป็นมาตรฐานหนึ่งของ ISO ซึ่งจัดการโดย World Wide Web Consortium (W3C) ในปัจจุบัน ทาง W3C ผลักดัน รูปแบบของ HTML แบบใหม่ ที่เรียกว่า XHTML ซึ่งเป็นลักษณะของโครงสร้าง XML แบบหนึ่งที่มีหลักเกณฑ์ในการกำหนดโครงสร้างของโปรแกรมที่มีรูปแบบที่มาตรฐานกว่า มาทดแทนใช้ HTML รุ่น 4.01 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ HTML รุ่น 5 ยังคงยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา โดยได้มีการออกดราฟต์มาเสนอเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551

2.3 โซเชียลมีเดีย หมายถึง

Facebook, Twitter, Google+, LinkedIn, blogs และforum สร้างการติดต่อแบบส่วนตัวในแบบที่เว็บไซต์อย่างเดียวไม่สามารถทำได้ ผู้เชี่ยวชาญโซเชียลมีเดียของคุณทำงานขึ้นตรงกับคุณเพื่อชี้แจงข้อมูลในปัจจุบันเกี่ยวกับบริษัทของคุณและบริการผ่านการอัพเดท Facebook อย่างสม่ำเสมอและการทวีต Twitter เราใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มฐานสมาชิกของคุณบน Facebook, Follower บน Twitter และขยายวงจรไปบน Google+ เพจ Facebook, Google+ และ Twitter ถูกตรวจสอบประจำวันเพื่อให้มีฟีดแบคกลับไปยังลูกค้าและคำร้อง/คอมเมนท์ที่เป็นลบได้รับการตอบรับและจัดการ คุณสร้างเน็ตเวิร์กของคุณในการติดต่อแบบ business-to-business บน LinkedIn ในการเปิดรับความเป็นไปได้ของการอ้างอิงและการเชื่อมโยงที่มีมูลค่าอื่นๆ มีบล็อกและฟอรั่มเพิ่มเติมให้กับร้านค้าของคุณและลูกค้าของคุณสำหรับฟีดแบคและการสื่อสารทางตรงในขณะที่สร้างลิ้งค์ที่มีคุณค่าสำหรับเว็บไซต์ของคุณ

2.4 เว็บไซต์ หมายถึง

World Wide Web หรือที่เรามักเรียกสั้นๆว่า Web หรือ W3 (WWW) คือ คอมพิวเตอร์ส่วนหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต ที่ถูกเชื่อมต่อกันในแบบพิเศษที่ทำให้คอมพิวเตอร์เหล่านั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลเนื้อหาที่เก็บไว้ภายในของแต่ละเครื่องได้ (กลายเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่) โดยผ่านทาง บราวเซอร์ (Browser) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้อ่านและตอบโต้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ใน World Wide Web โดยเฉพาะ บราวเซอร์ที่พบเห็นได้มากที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่ Internet Explorer ของ และNetscape

2.5 ประเภทของโรตี 2.5.1 โรตีมะตะบะ

2.5.2 โรตีกรอบ

2.5.3 โรตีกล้วยหอม 2.5.4 โรตีไข่ดาว 2.5.5 โรตีภูเขาไฟ 2.5.6 โรตีใส่ไข่

2.6 อุปกรณ์/เครื่องใช้

2.6.1 ตาชั่งสำหรับชั่งแป้ง

2.6.2 ช้อนตวง

2.6.3 ถ้วยตวง

2.6.4 ไม้ตีไข่

2.6.5 ตะหลิว

2.6.6 กระทะสำหรับทอดโรตี

2.6.7 กะละมังสำหรับผสม

2.6.8 ที่ร่อนแป้ง

2.6.9 เตาแก๊สหรือเตาถ่าน

2.7 ส่วนผสม

2.7.1 แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1500 กรัม

2.7.2 ไข่ไก่ 1 1/2 ฟอง

2.7.3 น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ

2.7.4 เกลือป่น 3/4 ช้อนชา

2.7.5 นมข้นจืด 6 ช้อนโต๊ะ

2.7.6 นมข้นหวาน 3 ช้นโต๊ะ

2.7.7 น้ำเปล่า 650 กรัม

2.7.8 น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

2.7.9 มาร์การีน 140 กรัม

2.7.10 มาร์การีนและน้ำมันพืชสำหรับหมักแป้ง

2.8 การฟาดแป้งโรตี

2.8.1 เริ่มหลังจากพักแป้งจนได้ที่แล้ว นำแป้งมาแผ่ออกบนโต๊ะสะอาด แผ่แป้งออกเป็นรูปวงกลมโดยการใช้นิ้วกด ไล่แผ่ให้แป้งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว และมีความหนาสม่ำเสมอกัน (แนะนำให้แผ่ขอบแป้งบางกว่าตรงกลางก้อนเล็กน้อย)

2.8.2 คว่ำมือ 1 ด้าน และหงายมือ 1 ด้าน จับชายแป้งพลิกฟาดแป้งเริ่มจากเบาๆ ช้าๆ ให้แป้งขยายออก โดยให้ชายแป้งด้านหึ่งขึ้นเร็วกว่าอีกด้านหนึ่ง ต้องใช้น้ำหนักมือในการฟาดที่สม่ำเสมอและไม่แรงเกินไป เพื่อไม่ให้แป้งฉีกขาดระหว่างการตี

2.8.3 เปลี่ยนมุมการจับชายแป้ง และพลิกฟาดเป็นวงกลมจนครบรอบ และแป้งบางได้ที่ ให้ระวังแป้งพลิกกลับมาติดกัน หลังจากแป้งขยายได้บางสม่ำเสมอเต็มที่ สามารถแบ่งวิธีการเป็น 2 วิธี

วิธีทำ

1. แบบแป้งบาง ค่อยๆ จับแป้งวางบนกระทะเพื่อไม่ให้แป้งแผ่ได้เต็มที่ ใช้ไฟอ่อน ปานกลาง ในการทอด พับแป้งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมทันที หลังจากนั้นให้ใส่มาการ์รีน รือเนยสดที่ด้านบนของแป้ง พลิกอีกด้านจนแป้งเหลืองดี 2. แบบแป้งเป็นชั้น (สำหรับผู้ที่สามารถฟาดแป้งได้บางมากแล้วเท่านั้น) ก่อนนำลงทอดให้จับมุมด้านนึงของแป้ง ขมวดจากปลายเป็นก้นหอยวางพักไว้ เมื่อจะทอดกดตรงกลางให้แป้งพอติดกัน นำลงทอดพอเหลืองแล้วกลับด้านพร้อมกับใส่มาการรีนหรือเนยจืด ทอดอีกด้านจนเหลือง (โรตีแบบนี้ต้องใช้ฝีมือในการทำมาก เนื่องจากต้องตีแป้งให้บางก่อนรวบให้เกิดอากาศเล็กน้อย ระว่างชั้นแป้ง)

2.9 วิธีการทำโรตี

2.9.1 ตั้งกระทะก้นแบน ทาน้ำมันพืชให้ทั่วใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง

2.9.2 ตอกไข่ใส่ถ้วย ตีให้ไข่แดงและไข่ขาวเข้ากับเป็นอย่างดี

2.9.3 หั่นกล้วยหอมสุกเป็นแว่นๆ ใส่ลงในไข่ที่ตีเสร็จเรียบร้อย

2.9.4 ทำการแผ่แป้ง โดยตีแป้งแบบแป้งบาง นำลงทอดในกระทะ โดยใช้กระทะก้นแบนเท่านั้น เพื่อให้แป้งแผ่ได้เต็มที่ ใช้ไฟค่อนข้าวอ่อนในการทอด

2.9.5 ใส่ไส้ลงไปที่ด้านบนของแป้ง จากนั้นเกลี่ยให้กล้วยหอมกระจายไปทั่วชิ้นแป้ง

2.9.6 พับมุมแป้งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม และกลับด้านเมื่อไข่เริ่มสุก หลังจากนั้นใส่มาร์การีนหรือเนยสด กลับด้านทอดอีกครั้งจนแป้งสุกดี

2.9.7 นำขึ้นจากกระทะโรยนมเข้นหวานและน้ำตาลทรายตามใจชอบ

2.9.8 ถ้าต้องการความแตกต่างให้โรยผงมอลต์สกัด (หรือโอวัลตินเพิ่มอีกชั้น) หรือสามารถประยุกต์จากการ ใส่กล้วย โดยเปลี่ยนเป็นใส่ลูกเกด หรือลูกชิด จะทำให้โรตีหน้าสนใจและมีสีสันมากยิ่งขึ้น

โรตีกรอบ

ส่วนผสม

1. แป้งโรตี (สูตร 5 สี) 1ก้อน

2. มาร์การีน หรือเนยสด 1/2 ช้อนชา

3. นมข้นหวานสำหรับโรยหน้าตามชอบ

4. น้ำตาลทราบสำหรับโรยหน้าตามชอบ

5. น้ำมันพืช

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะก้นแบน ทาน้ำมันพืชให้ทั่ว ใช้ไฟอ่อนถึงไฟแรงปานกลาง

2. ฟาดแป้ง

3. ตักแป้งหลังทอดขึ้นมาพักเอาไว้บนกระดาษห่อหรือภาชนะที่แห้ง 4. โรยด้วยนมข้นหวานและน้ำตาลทรายตามลำดับ จับแป้งและกระดาษห่อพร้อมกัน เหน็บกระดาษด้านหัว และด้านท้ายของโรตีให้เรียบร้อย

โรตีมะตะบะ

ส่วนผสม

1. แป้งสาลี 300 กรัม

2. นํ้าเปล่า 150 มิลลิลิตร

3. เกลือ 1 ช้อนชา

4. จี เป็นเนยของแขก (Butter Ghee) 2 ช้อนโต๊ะจะใช้นํ้ามันพืชแทนก็ได้

วิธีการทำ

1. แบ่งแป้งที่นวดเป็นก้อน ๆ เล็ก-ใหญ่ อย่างละ 4 ตอกไข่ ใส่ลงไป แล้วเกลี่ยให้ทั่ว

2. โรยด้วยหอมใหญ่เนื้อไก่งวง ผสมด้วยมาซาลา เครื่องเทศของแขก

3. โรยด้วยผักชี พริกสด นิดหน่อย จากนั้นพับให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม

4. ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน แล้วนำโรตีลงไปทอด

โรตีไข่ดาว

ส่วนผสม

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1500 กรัม

2. ไข่ไก่ 1 1/2 ฟอง

3. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ

4. เกลือป่น 3/4 ช้อนชา

5. นมข้นจืด 6 ช้อนโต๊ะ

6. นมข้นหวาน 3 ช้นโต๊ะ

7. น้ำเปล่า 650 กรัม

8. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

9. มาร์การีน 140 กรัม

10. มาร์การีนและน้ำมันพืชสำหรับหมักแป้ง

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงลงอ่านผสม พักไว้

2. ผสม ไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือป่น นมข้นจืด นมข้นหวาน ตนให้เข้ากันแล้วเทลงผสมในแป้งที่ร่อนไว้ นวดด้วยหัวตีตะขอ พอแป้งจับตัวเป็นก้อน เติมน้ำมันพืชและ มาร์การีน นวดต่อจนแป้งเป็นเนื้อเนียน นำออกมาพักไว้ประมาณ 20 นาที
3. นำแป้งที่พักได้ที่แล้ว ตัดแบ่งเป็นก้อนก้อนละ 40 กรัม แล้วคลึงเป็นก้อนกลม คลุกกับมาร์การีนหรือแช่ในน้ำมันพืชประมาณ 1 ชั่วโมง

โรตี ใส่ไข่-กล้วยหอม

ส่วนผสม

1. แป้งโรตี 1 ก้อน 2. มาร์การีน หรือเนยสด 1/2 ช้อนชา

3. กล้วยหอมสุกขนาดกลาง 1/2 ผล

4. ไข่ไก่ 1 ฟอง

5. ผงมอลต์สกัด 1 ช้อนชา

6. นมข้นหวานสำหรับโรยหน้าตามชอบ

7. น้ำตาลทรายสำหรับโรยหน้าตามชอบ

8. น้ำมันพืช

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะก้นแบน ทาน้ำมันพืชให้ทั่วใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง

2. ตอกไข่ใส่ถ้วย ตีให้ไข่แดงและไข่ขาวเข้ากับเป็นอย่างดี

3. หั่นกล้วยหอมสุกเป็นแว่นๆ ใส่ลงในไข่ที่ตีเสร็จเรียบร้อย

4. ทำการแผ่แป้ง โดยตีแป้งแบบแป้งบาง นำลงทอดในกระทะ โดยใช้กระทะก้นแบนเท่านั้น เพื่อให้แป้งแผ่ได้เต็มที่ ใช้ไฟค่อนข้าวอ่อนในการทอด

5. ใส่ไส้ลงไปที่ด้านบนของแป้ง จากนั้นเกลี่ยให้กล้วยหอมกระจายไปทั่วชิ้นแป้ง

6. พับมุมแป้งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม และกลับด้านเมื่อไข่เริ่มสุก หลังจากนั้นใส่มาร์การีนหรือเนยสด กลับด้านทอดอีกครั้งจนแป้งสุกดี

7. นำขึ้นจากกระทะโรยนมเข้นหวานและน้ำตาลทรายตามใจชอบ

8. ถ้าต้องการความแตกต่างให้โรยผงมอลต์สกัด (หรือโอวัลตินเพิ่มอีกชั้น) หรือสามารถประยุกต์จากการ ใส่กล้วย โดยเปลี่ยนเป็นใส่ลูกเกด หรือลูกชิด จะทำให้โรตีหน้าสนใจและมีสีสันมากยิ่งขึ้น

โรตีภูเขาไฟ

ส่วนผสม

1. ไข่ไก่ 1 ฟอง

2. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา

4. เนยสดละลาย 50 กรัม

5. น้ำ 1 ถ้วยตวง

6. นมสด 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะก้นแบน ทาน้ำมันพืชให้ทั่วใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง

2. ตอกไข่ใส่ถ้วย ตีให้ไข่แดงและไข่ขาวเข้ากับเป็นอย่างดี

3. หั่นกล้วยหอมสุกเป็นแว่นๆ ใส่ลงในไข่ที่ตีเสร็จเรียบร้อย

7. นำขึ้นจากกระทะโรยผงมอลต์สกัด หรือ โอวัลติน

โรตีใส่ไข่

ส่วนผสม

1. แป้งโรตี 1 ก้อน 2. มาร์การีน หรือเนยสด 1/2 ช้อนชา

3. ไข่ไก่ 1 ฟอง

4. นมข้นหวานสำหรับโรยหน้าตามชอบ

5. น้ำตาลทรายสำหรับโรยหน้าตามชอบ

6. น้ำมันพืช

วิธีทำ

1. ตั้งกระทะก้นแบน ทาน้ำมันพืชให้ทั่วใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง

2. ตีแป้งโรตีให้เป็นแผ่น พยายามตีอย่าให้แป้งขาด

3. นำลงทอดทั้งแผ่น

4. ตีไข่ให้ฟูและเทลงในแป้งโรตี

5. พับเป็นรูปสี่เหลี่ยมกลับหน้าทอดอีกด้านหนึ่งให้เหลือง ยกขึ้นพอสะเด็ดน้ำมัน

6. จึงโรยด้วยนมข้นหวานและน้ำตาลทราย

วิธีการดำเนินงาน

วัน/เดือน/ปี	กิจกรรม
5-7 พฤศจิกายน 2555	- ศึกษาเกณฑ์การวัดและประเมินผล - เลือกหัวข้อเรื่อง - ศึกษาหัวข้อเรื่อง
12-16 พฤศจิกายน 2555	- ศึกษาคำสำคัญ คำถามในประเด็นความรู้ และสมมติฐาน
26-30 พฤศจิกายน 2555	- ศึกษาการเขียนรายงานการค้นคว้า - พบครูที่ปรึกษาเสนอโครงร่าง - ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งค้นคว้า
3-5 ธันวาคม 2555	- พบครูปรึกษารายงานความก้าวหน้า - ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
7-18 ธันวาคม 2555	- หาความรู้จากแหล่งข้อมูล (บทที่ 1) - ลงมือเขียนรายงานการค้นคว้า (บทที่ 1) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ขอคำแนะนำกับครูที่ปรึกษา (บทที่ 1) - เขียนรายงานการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม (บทที่ 1) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ต่อครูผู้สอน (บทที่ 1) - ส่งผลงานการค้นคว้าครูที่ปรึกษา (บทที่ 1)
21-26 ธันวาคม 2555	- หาความรู้จากแหล่งข้อมูล (บทที่ 2) - ลงมือเขียนรายงานการค้นคว้า (บทที่ 2) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ขอคำแนะนำกับครูที่ปรึกษา (บทที่ 2) - เขียนรายงานการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม (บทที่ 2) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ต่อครูผู้สอน (บทที่ 2) - ส่งผลงานการค้นคว้าครูที่ปรึกษา (บทที่ 2)
4-18 มกราคม 2556	- หาความรู้จากแหล่งข้อมูล (บทที่ 3) - ลงมือเขียนรายงานการค้นคว้า (บทที่ 3) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ขอคำแนะนำกับครูที่ปรึกษา (บทที่ 3) - เขียนรายงานการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม (บทที่ 3) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ต่อครูผู้สอน (บทที่ 3) - ส่งผลงานการค้นคว้าครูที่ปรึกษา (บทที่ 3)
10-17 มกราคม 2556	- หาความรู้จากแหล่งข้อมูล (บทที่ 4 ) - ลงมือเขียนรายงานการค้นคว้า (บทที่ 4 ) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ขอคำแนะนำกับครูที่ปรึกษา (บทที่ 4 ) - เขียนรายงานการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม (บทที่ 4 ) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ต่อครูผู้สอน (บทที่ 4 ) - ส่งผลงานการค้นคว้าครูที่ปรึกษา (บทที่ 4 )
18-30 มกราคม 2556	- หาความรู้จากแหล่งข้อมูล (บทที่ 5 ) - ลงมือเขียนรายงานการค้นคว้า (บทที่ 5 ) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ขอคำแนะนำกับครูที่ปรึกษา (บทที่ 5 ) - เขียนรายงานการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม (บทที่ 5 ) - ส่งผลงานการค้นคว้า (ฉบับร่าง) ต่อครูผู้สอน (บทที่ 5 ) - ส่งผลงานการค้นคว้าครูที่ปรึกษา (บทที่ 5 )
1 มีนาคม 2556	- ส่งฉบับจริง
1 มีนาคม 2556	- นำเสนอผลงาน

ผลการดำเนินงาน

1. ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา

1.1 ได้ทราบประวัติความเป็นมาของโรตี

1.2 ได้ทราบวิธีการทำโรตี

1.3 ได้ทราบการนำเสนองานในรูปแบบของบล๊อก

2. ประวัติความเป็นมาของโรตี

โดยทั่วไปแล้ว คำว่า โรตี นั้น อาจหมายถึง ขนมปัง หรือผลิตภัณฑ์จากแป้งหลากหลายชนิด เช่น จาปาตี และ ผุลกา ซึ่งผลิตภัณฑ์แป้งหรือขนมปังแต่ละอย่างต่างก็มีชื่อเฉพาะแตกต่างกันไป สำหรับในภาษามราฐี มักจะเรียก โรตี ว่า จาปาตี หรือ โปลี ส่วนในคุชรตี เรียกว่า "โรตลี" ในภาษาปัญจาบีนั้น โรตีชนิดที่รับประทานอย่างง่ายๆ จะเรียกว่า ผุลกา (Phulka) และมักจะใช้เรียกขนมปัง โดยมากจะใช้คำนี้หมายถึงแป้งแบนกลมๆ ไม่ขึ้นฟู อย่างที่รับประทานกันทั่วไปในอินเดีย และปากีสถาน ส่วนแป้งแบบใส่ยีสต์ให้ขึ้นฟูนั้น จะเรียกว่า "นาอัน" (naan) ซึ่งเดิมมีกำหนดจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของเอเชียใต้ และเอเชียกลาง บางครั้งชาวตะวันตกจะเรียกโรตีแบบนี้ว่า 'balloon bread' หรือ ขนมปังพอง นั่นเอง

3. ประเภทของโรตี

3.1 โรตีมะตะบะ

3.2 โรตีกรอบ

3.3 โรตีกล้วยหอม 3.4 โรตีไข่ดาว 3.5 โรตีภูเขาไฟ 3.6 โรตีใส่ไข่

4.วัตถุดิบ

4.1 แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1500 กรัม

4.2 ไข่ไก่ 1-2 ฟอง

4.3 น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ

4.4 เกลือป่น 3/4 ช้อนชา

4.5 นมข้นจืด 6 ช้อนโต๊ะ

4.6 นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ

4.7 น้ำเปล่า 650 กรัม

4.8 น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

4.9 มาร์การีน 140 กรัม

4.10 มาร์การีนและน้ำมันพืชสำหรับหมักแป้ง

สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะ

1. สรุปและอภิปรายผล

โรตี หมายถึง ขนมปัง หรือผลิตภัณฑ์จากแป้งหลากหลายชนิด เช่น จาปาตี และ ผุลกา ผลิตภัณฑ์แป้งหรือขนมปังแต่ละอย่างต่างมีชื่อเฉพาะแตกต่างกัน สำหรับในภาษามราฐี จะเรียก โรตี ว่า จาปาตี หรือ โปลี ในคุชรตี เรียกว่า โรตลี ในภาษาปัญจาบี โรตีชนิดที่รับประทานอย่างง่าย จะเรียกว่า ผุลกา (Phulka) และจะใช้เรียกขนมปัง โดยมากจะใช้คำนี้หมายถึงแป้งแบนกลมๆ ไม่ขึ้นฟู อย่างที่รับประทานกันทั่วไปในอินเดีย และปากีสถาน

โรตีในปัจจุบันมีหลายชนิดมิได้มีเพียงโรตีกรอบหรือโรตีมะตะบะ แต่ยังมีโรตีชนิดต่างๆอีกมากมายที่ผู้ขายได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจโรตีสูตรใหม่มากขึ้น

โรตีรูปแบบต่างๆได้นำเสนองานในรูปแบบบล็อกเพื่อดึงดูดความน่าสนใจ เว็บบล็อกเป็นสิ่งที่ทันสมัย สามารถเข้ามาดูและค้นหาข้อมูล ความเป็นมาของโรตี สูตรขนมโรตี ที่มีรสชาติอร่อยไปจากเดิม ประเภทของโรตี และวิธีการทำโรตี ได้ง่าย สะดวก และทันใจ

2. ประโยชน์ที่ได้รับจากการค้นคว้าข้อมูล

1. สามารถปรับปรุงสูตรโรตีให้ดีขึ้น

2. สามารถทำให้รสชาติอร่อยถูกใจลูกค้า

3. ทำให้ลูกค้าเพิ่มจำนวนมากขึ้น

3. ข้อเสนอแนะ

การทำรายงานฉบับนี้อาจจะทำให้ผู้สนใจและผู้อ่านเข้าใจเนื้อหามากขึ้น หากผู้อ่านต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ควรศึกษาเพิ่มเติมได้ที่แหล่งข้อมูลเพื่อที่จะได้ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน